พรมเฮเรเค เป็นพรมทอมือคุณภาพสูงที่ถูกทอแบบดั้งเดิมในเมืองเฮเรเค ใกล้กรุงอิสตันบูล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี โดยมีต้นกำเนิดย้อนกลับไปในปี 1841 เมื่อสุลต่านอับดุลเมจิดที่ 1 แห่งจักรวรรดิออตโตมันได้ก่อตั้งโรงงานทอผ้าสำหรับพระราชวังชื่อว่า "เฮเรเคอิมพีเรียลแฟคทอรี" สุลต่านได้รวบรวมช่างฝีมือที่มีฝีมือจากทั่วจักรวรรดิให้มาทอพรมสำหรับพระราชวัง และพรมที่ผลิตที่นี่ได้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ "พรมเฮเรเค"
ในยุคจักรวรรดิออตโตมัน พรมเฮเรเคถูกผลิตในขนาดใหญ่เพื่อประดับห้องโถงของพระราชวัง ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ พรมเฮเรเคขนาดประมาณ 120 ตารางเมตรที่ปูอยู่ใน "ห้องเอกอัครราชทูต" ของพระราชวังโดลมาบาห์เช ซึ่งในตอนแรกถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะในการตกแต่งภายในพระราชวัง แต่หลังจากที่การตกแต่งภายในเสร็จสิ้นแล้ว ก็เริ่มถูกใช้เป็นของขวัญอย่างเป็นทางการสำหรับแขกต่างประเทศ การขายในตลาดทั่วไปได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 1890 โดยในขณะนั้นมีเพียงพ่อค้าบางรายเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่าย
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน การผลิตพรมเฮเรเคลดลงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในกลางศตวรรษที่ 20 เทคโนโลยีการทอแบบดั้งเดิมได้ฟื้นฟูขึ้นโดยช่างทอที่มีความชำนาญ และการผลิตพรมเฮเรเคยังคงสืบทอดต่อไปจนถึงปัจจุบัน
การออกแบบพรมเฮเรเคมีอิทธิพลจากวัฒนธรรมของจักรวรรดิออตโตมันและศิลปะอิสลามอย่างชัดเจน โดยมักใช้ลวดลายเรขาคณิตและแรงบันดาลใจจากพืช ลวดลายอาหรับสก (arabesque) และลวดลายดอกไม้ถูกแสดงออกมาอย่างประณีต พรมสำหรับการสวดมนต์ที่มีการออกแบบเป็นรูปอาร์คที่เลียนแบบผนังของห้องสวดในศาสนาอิสลาม หรือรูปแบบที่มี "ต้นไม้แห่งชีวิต" เป็นศูนย์กลางก็เป็นธีมดั้งเดิมเช่นกัน
สีสันของพรมมักจะใช้โทนสีเข้ม เช่น แดงเข้ม น้ำเงินเข้ม และเขียวเข้ม ผสมผสานกับสีครีม สีทอง และสีเบจ ซึ่งให้ความรู้สึกหนักแน่นและหรูหรา
พรมเฮเรเคมีประวัติศาสตร์ที่ถูกใช้โดยชนชั้นสูงและขุนนาง และชื่อของมันเป็นที่รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของความหรูหราและคุณภาพสูงสุด ปัจจุบันยังคงถูกจัดอยู่ในกลุ่มพรมทอมือที่ดีที่สุดในโลก และถูกเปรียบเทียบกับพรมเปอร์เซียที่มีชื่อเสียงจากอิหร่าน เช่น อิสราฟาน คุม และทาบรีซ